Page 504 - เอกสารประกอบหลักสูตรเพื่อพัฒนาอาชีพ Re - Skill และ Up - Skill กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม
P. 504

498


                             5. ภาชนะที่ใช้ ภาชนะที่ต้มควรจะเป็นหม้อเคลือบ ไม่ควรใช้หม้ออะลูมิเนียม เพราะอาจทำให้

                   กรดที่อยู่ในสมุนไพรกัดภาชนะ ถ้าเป็นหม้อหรือกะทะทองเหลืองจะทำให้รสของน้ำสมุนไพรเปลี่ยนไป
                   นอกจากนี้การที่เราดื่มน้ำสมุนไพรที่มีสารโลหะหนักผสมอยู่อาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ สำหรับภาชนะที่

                   บรรจุควรจะเป็นขวดแก้ว จะสะดวกในการนึ่ง และน้ำสมุนไพรจะไม่ทำปฏิกิริยากับขวดแก้ว ภาชนะที่เป็นแก้ว
                   ยังดูใสสะอาดน่าดื่มยิ่งขึ้น


                   การเลือกวัตถุดิบทดแทนเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
                                                        [3]
                             1. เลือกผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แบล็ค

                   เบอร์รี่ หรือราสเบอร์รี่ รวมถึงแคนตาลูป เกรปฟรุต และมะละกอ ล้วนเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย นอกจากนี้
                   หลายคนนิยมดื่มสมูทตี้ที่มีส่วนผสมของกล้วยด้วย เพราะหอมอร่อยและช่วยเพิ่มความข้นให้กับเนื้อสมูทตี้ แต่

                   กล้วยเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งกล้วยประมาณ 85 กรัมจะมีน้ำตาลประมาณ 10 กรัม รวมถึงเชอร์รี่ องุ่น
                   มะม่วง และมะเดื่อฝรั่งก็เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงเช่นกัน จึงควรควบคุมปริมาณในการบริโภค ทั้งนี้ อาจเพิ่ม
                   น้ำแข็งหรือเลือกใช้ผลไม้แช่แข็งเพื่อช่วยให้เนื้อสมูทตี้ข้นขึ้นแทนได้เช่นกัน และไม่ควรดื่มสมูทตี้เกินวันละ 150

                   มิลลิกรัมหรือประมาณ 1 แก้วเล็ก เพราะน้ำตาลจากผลไม้อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุได้
                             2. เพิ่มอาหารที่เป็นแหล่งโปรตีนและไขมันดี อะโวคาโดเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่ประกอบไปด้วย

                   ไขมันชนิดที่ดีต่อร่างกาย ทั้งยังมีวิตามินบี โพแทสเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ เวย์โปรตีนและถั่ว
                   ลันเตา ก็เป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่ายซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็น หรือสามารถใส่เมล็ดเจียที่ช่วยให้สมูทตี้
                   มีเนื้อข้นขึ้น ทั้งยังมีไฟเบอร์ โปรตีน และไขมันชนิดที่ดีต่อร่างกายด้วย

                             3. ใส่ผักใบเขียวเพิ่มประโยชน์ เช่น ปวยเล้ง เคล หรือสวิสชาร์ด เป็นต้น เพราะเป็นผักที่จะเพิ่มสี
                   เขียวให้กับสมูทตี้ และยังประกอบไปด้วยสารอาหารมากมาย ทั้งวิตามิน ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่ง

                   อาจใส่น้ำมะนาวลงไปด้วยเพื่อช่วยให้รสชาติของผักใบเขียวกลมกลืนกับผลไม้อื่น ๆ ในแก้วได้เป็นอย่างดี
                             4. เติมความหวานอย่างระมัดระวัง แม้จะเลือกวัตถุดิบที่มีไขมันดีอย่างอะโวคาโด หรือผลไม้รส
                   เปรี้ยวในตระกูลเบอร์รี่ แต่หากเติมน้ำตาลหรือน้ำผึ้งมากเกินไปก็อาจทำให้สมูทตี้แก้วนั้นไม่ดีต่อสุขภาพอย่างที่

                   คิด เพราะความหวานที่มากเกินพอดีอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเสี่ยงต่อปัญหา
                   สุขภาพอื่น ๆ ตามมา อย่างฟันผุ น้ำหนักตัวเกิน โรคอ้วน โรคเบาหวาน รวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจ แต่หากติด

                   รสหวานก็อาจเลือกใช้หญ้าหวานหรือสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ
                   ให้สมูทตี้แก้วโปรด


                   ..........................................................
                          3  สมูทตี้ เมนูอร่อยเพื่อสุขภาพ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www.pobpad.com/ (วันที่สืบค้นข้อมูล 24
                   กรกฎาคม 2564)











                                                          500
   499   500   501   502   503   504   505   506   507   508   509