Page 509 - เอกสารประกอบหลักสูตรเพื่อพัฒนาอาชีพ Re - Skill และ Up - Skill กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม
P. 509

กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม
                                                หลักสูตร การท�าอาหารเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ


                                                                                                   503


                             การเก็บรักษาวัตถุดิบประเภทสมุนไพร
                                                            [5]
                             การรักษาสมุนไพรเพื่อใช้ปรุงยารักษาโรคต่าง ๆ นั้น เราจำจะต้องศึกษาธรรมชาติของสมุนไพร
                   เหล่านี้เสียก่อนว่า สมุนไพรเหล่านี้มีลักษณะอย่างไร ควรจะเก็บรักษาไว้เป็นเวลานานเท่าใด จึงจะเสื่อม

                   คุณภาพ และควรเก็บด้วยภาชนะชนิดใดจึงจะไม่เกิดปฏิกิริยากับสมุนไพรเหล่านี้ และควรเก็บอย่างไร กลิ่น รส
                   ของสมุนไพรเหล่านี้จึงจะเสื่อมไป การรักษาสมุนไพร ดังกล่าวพอจะกล่าวโดยสังเขปได้ดังต่อไปนี้ คือ
                             1. การรักษาสมุนไพรประเภทที่มีกลิ่นหอม เช่น อบเชย กฤษณา กะลำพัก พิมเสน การบูน

                   ชมดเชียง ฯลฯ ควรเก็บในขวดแก้ว หรือ ขวดพลาสติกที่มีฝาจุกอัดอากาศให้แน่นสนิทอย่าให้อากาศเข้าได้และ
                   ควรเช็ดให้แห้งสนิทก่อนที่จะนำมาใช้เก็บสมุนไพรเหล่านี้ ทั้งนี้ เพื่อเก็บกลิ่นของสมุนไพรเหล่านี้ไว้ให้อยู่

                   ตลอดไปให้นานที่สุด เมื่อเราจะนำมาปรุงยาเมื่อใด สมุนไพรเหล่านี้ก็ยังมีสรรพคุณดีอยู่เสมอ หากใช้ภาชนะใน
                   การเก็บรักษาสมุนไพรเหล่านี้ผิด เช่น ใช้ภาชนะที่ทำด้วยเหล็ก หรือ ทองเหลืองเก็บสมุนไพรเหล่านี้ภาชนะ

                   เหล่านั้นอาจเกิดสนิม และสนิมเหล่านี้จะทำลายคุณภาพของสมุนไพรให้เสื่อมไปจนใช้การไม่ได้ และหากใช้จุก
                   ปิดฝาภาชนะเหล่านี้ปิดไม่สนิทอากาศเข้าได้ สมุนไพรเหล่านี้ก็จะหมดกลิ่นและเสื่อมคุณภาพไม่สามารถจะ
                   นำไปใช้ทำยาได้อีกต่อไป

                             2. ส่วนสมุนไพรบางชนิดต้องไม่เก็บไว้ในภาชนะที่ทำด้วยโลหะบางชนิดเช่นอะลูมิเนียม เช่นดี
                   เกลือ ดินปะสิว จุลสี เกลือสินเธา สารส้ม กำมะถัน น้ำส้มสายชู ฯลฯ ทั้งนี้เพราะสารต่างๆ ในสมุนไพรเหล่านี้

                   เมื่อสลายตัวออกมาแล้ว จะเกิดปฏิกิริยากับภาชนะที่ใช้เก็บ อาจจะเกิดเป็นกรดอย่างแรงชนิดต่างๆ ซึ่งจะมี
                   อันตรายเมื่อนำสมุนไพรเหล่านี้ไปใช้ปรุงยาให้แก่คนไข้
                             3. สมุนไพรที่เป็นพืชบางชนิด หรือเป็นสัตว์วัตถุควรใช้ภาชนะที่ทำด้วยสังกะสี หรือทองเหลืองเป็น

                   รูปปี๊บ ขนาดปี๊บน้ำมันก๊าด และตอนบนควรจะทำเป็นฝาปิดรูปทรงกระบอก แบบฝาถ้ำชาเพื่ออัดอากาศให้แน่น
                   เวลาใช้เก็บสมุนไพรเหล่านี้ ก่อนเก็บสมุนไพรควรล้างภาชนะให้สะอาดและตากแดดให้แห้งสนิท รวมทั้งสมุนไพรที่

                   จะนำมาเก็บด้วย ต้องตากแดดให้แห้งสนิท ก่อนจะนำมาเก็บในภาชนะเหล่านี้แล้วปิดฝาให้แน่นอย่าให้อากาศและ
                   ความชื้นในอากาศเข้าได้ เราก็จะรักษาคุณสมบัติของสมุนไพรเหล่านี้ให้มีอายุยืนนานถึง ๑ ปี หรือกว่านั้น
                             4. สมุนไพรประเภทมีลักษณะเป็นน้ำ หรือน้ำมัน เช่น น้ำผึ้ง น้ำมันต่างๆ ควรเก็บไว้ในขวดแก้ว

                   ส่วนยาดองเหล้า หรือมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือ ยาดองอื่นๆ ควรใช้ขวดแก้วเป็นภาชนะเก็บรักษาจะ
                   ปลอดภัยกว่า หากจะเก็บยาเหล่านี้เป็นเวลานาน แม้แต่ยาต้มแล้ว ใส่ยากันบูดเช่นโซเดียมเบ็นโซเอ็ด ยา

                   ประเภทนี้หากมีความจำเป็นต้องเก็บไว้นานก็ควรเก็บไว้ในขวดแก้วจะปลอดภัยกว่า ไม่ควรเก็บไว้ในขวด
                   พลาสติก หรือขวดอะลูมิเนียมในระยะยาวนาน ทั้งนี้เพราะขวดพลาสติกและขวดอะลูมิเนียมมีสารบางชนิดอาจ
                   เกิดปฏิกิริยากับยาเหล่านี้ในทางที่เป็นพิษแก่คนไข้ที่ใช้รักษา

                             5. สมุนไพรประเภทเกสร หรือประเภทผงต่างๆ ควรเก็บไว้ในขวดแก้ว หรือขวดพลาสติกอัด
                   อากาศให้แน่น สมุนไพรเหล่านี้ย่อมจะมีคุณสมบัติอยู่ได้ในระยะอันยาวนาน

                   ..........................................................
                          5  สมุนไพรไทยรักษาโรค. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
                   https://sites.google.com/site/chayada10381/kar-keb-raksa. (วันที่สืบค้นข้อมูล 24 กรกฎาคม 2564).








                                                          505
   504   505   506   507   508   509   510   511   512   513   514