Page 344 - เอกสารประกอบหลักสูตรเพื่อพัฒนาอาชีพ Re - Skill และ Up - Skill กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม
P. 344

340


                             3. มีความสุภาพ เรียบร้อย อารมณ์ดี มีความรอบคอบ และประณีต

                             4. พัฒนาบุคลิกภาพให้น่าดู ประทับใจตลอดเวลา
                             5. รักษาความสะอาดของร่างกาย และเสื้อผ้า

                             นอกจากคุณสมบัติทั้ง 5 ประการที่ผู้ขายต้องมีแล้ว ผู้ขายยังต้องมีความเป็นระเบียบและมีศิลปะ
                   ในการขาย จึงทำให้การจำหน่ายสินค้าประสบผลสำเร็จ ดังนี้
                             1) ความมีระเบียบวินัย เป็นคุณสมบัติที่พนักงานขายทุกคน ควรต้องมีการฝึกฝนการขายให้เป็น

                   ระบบ ระเบียบ เช่น การแต่งกายต้องสะอาดเรียบร้อย หากมีเครื่องแบบจะทำให้เกิดภาพพจน์ที่ดี นอกจากการ
                   แต่งกายแล้ว การจัดเก็บเครื่องมือ เครื่องใช้ในการผลิตขนมอบต้องเก็บให้เป็นระเบียบ เวลาใช้จะได้หาง่าย

                   ประหยัดเวลา ดูงามตา และควรทำให้เป็นระเบียบปฏิบัติประจำเพื่อความคุ้นเคย
                             2) ศิลปะในการขาย อาจกล่าวได้ว่าผู้จำหน่าย ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลปะในการจำหน่าย

                   “ศาสตร์” ในที่นี้หมายถึง ความรู้และความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ สามารถให้คำแนะนำ ชี้ข้อดีและข้อเด่นของ
                   ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ซื้อเกิดความมั่นใจว่าได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดี รสชาติอร่อย คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไป สำหรับ
                   “ศิลปะ” ในที่นี้ หมายถึง ศิลปะในการขาย ผู้จำหน่ายควรมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี จดจำลูกค้าหรือผู้ซื้อได้ เพราะ

                   จะทำให้เพิ่มเสน่ห์ในการขาย อีกทั้งควรพูดจาไพเราะ การมีสัมพันธภาพและอัธยาศัยที่ดีกับลูกค้าหรือผู้ซื้อเป็น
                   การโฆษณาสินค้าที่ดีที่สุด ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายและมีกำไรเพิ่มได้


                   หลักและองค์ประกอบของการกำหนดราคา
                             การกำหนดราคาขาย หมายถึง การเพิ่มจำนวนเงินเข้าไปในราคาทุนของสินค้า ราคาที่ได้ คือ ราคา

                   ขาย ส่วนแตกต่างระหว่างราคาทุนและราคาขาย คือ ผลกำไร ดังนั้น องค์ประกอบพื้นฐานในการพิจารณากำหนด
                   ราคาขาย คือ ต้นทุนการผลิต และส่วนองค์ประกอบอื่น ๆ ได้แก่ รูปลักษณ์ขนม จำนวนที่ผลิต รูปแบบการบรรจุ

                   ภัณฑ์ ราคาในท้องตลาด สิ่งเหล่านี้ต้องนำมาใช้พิจารณาเพื่อกำหนดราคาขาย และกำไรร่วมกับต้นทุนการผลิต
                            ต้นทุนการผลิตที่สำคัญ คือ
                             1) ค่าวัตถุดิบ หมายถึง ค่าใช้จ่ายหลักในการผลิตผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ค่าวัตถุดิบต่าง ๆ ซึ่งสามารถ

                   คำนวณได้จากราคาจริงของวัตถุดิบแต่ละชนิด
                             2) ค่าแรงงาน หมายถึง เงินเดือน หรือค่าแรงที่จ่ายให้แก่คนงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรง

                   ต้นทุนในด้านนี้ สามารถคิดได้จากการเอาค่าแรงทั้งหมด หารด้วยจำนวนผลิตภัณฑ์ ทั้งหมดที่ผลิตคิดเป็น
                   ค่าแรงงานต่อผลิตภัณฑ์ 1 ชิ้น
                             3) ค่าโสหุ้ยการผลิต หมายถึง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากค่าวัตถุดิบและ

                   ค่าแรงงาน ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีส่วนช่วยให้กระบวนการผลิตเสร็จสิ้นลง สำหรับกิจการ ได้แก่ อุปกรณ์ทุกชนิด
                   ที่ใช้ในการผลิต ค่าสถานที่ ค่าเช่าอาคาร ค่าซ่อมแซมเครื่องจักร ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเสื่อมราคาของอุปกรณ์

                   ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สำคัญที่ผู้ผลิตควรให้ความสำคัญ
                             วิธีการคำนวณให้นำเอาราคาต้นทุนทั้งหมดของอุปกรณ์ที่ใช้มาหารเฉลี่ยค่าใช้จ่าย เพื่อพิจารณา
                   ว่าในแต่ละเดือนจะเสียค่าโสหุ้ยในการผลิตทั้งหมดเป็นเงินเท่าใด โดยทั่วไปจะนำมาเฉลี่ยตามต้นทุนของ








                                                          340
   339   340   341   342   343   344   345   346   347   348   349