Page 27 - เอกสารประกอบหลักสูตรเพื่อพัฒนาอาชีพ Re - Skill และ Up - Skill กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม
P. 27
กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม
หลักสูตร การปลูกพืชสมุนไพรพื้นบ้าน ฟ้าทะลายโจร
23
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หลังเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ความต้องการ
ฟ้าทะลายโจรที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากลูกค้าทั่วไป (B2C) และกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง (B2B) น่าจะผลักดัน
ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิตขยายกำลังการผลิตฟ้าทะลายโจร อย่างไรก็ดี การผลิตสมุนไพรกลุ่มฟ้าทะลายโจร
ในไทยยังมีความท้าทายอยู่ไม่น้อย ประเด็นแรก คือ ผลผลิตในปัจจุบันที่ยังมีไม่มากนัก ซึ่งหากมีความต้องการในตลาด
เพิ่มสูงในระยะสั้น ดังเช่นช่วง COVID-19 อาจเกิดความไม่เพียงพอของผลผลิต แม้ว่าในระยะหลังจะมีการส่งเสริม
ให้สามารถเพาะปลูกได้ทั่วประเทศ แต่ก็ยังมีความท้าทายประการที่สอง นั่นคือ ความไม่สม่ำเสมอของผลผลิตและ
ปริมาณสารสำคัญที่ได้จากผลผลิตภายใต้การผลิตแบบระบบเปิด ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะสภาพอากาศ
และพื้นที่เพาะปลูกเป็นสำคัญ ส่งผลให้ปัจจุบันไทยยังไม่สามารถขยายการผลิตได้อย่างรวดเร็วหรือแม้กระทั่งจะขยับ
ไปสู่การส่งออก ดังนั้น ภาครัฐจึงสนับสนุนให้มีการปลูกสมุนไพรในโรงงานผลิตพืช (Plant Factory) ที่มีระบบปิด
เพื่อให้ได้คุณภาพของสมุนไพรที่สูง และสามารถควบคุมสภาพแวดล้อม ซึ่งจะได้ปริมาณสารสำคัญมากขึ้นและ
ผลผลิตมีความสม่ำเสมอ สามารถป้อนสู่ตลาดอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก โดยเฉพาะสำหรับ
กลุ่มเกษตรกรส่วนใหญ่ ที่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณในการลงทุน เพราะต้นทุนการผลิตเริ่มต้นยังสูงอยู่ที่ราว
3 ล้านบาท ซึ่งหากจะสามารถทำได้คงต้องอาศัยเวลา ทั้งในเรื่องของความพร้อมด้านการลงทุนและองค์ความรู้
ด้านเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง นอกจากนี้ หากวิเคราะห์มิติด้านการตลาดของฟ้าทะลายโจร ก็อาจจะต้องแข่งขัน
กับสินค้าทดแทนอื่นๆ ที่มีสรรพคุณทางยาที่ใกล้เคียงกัน อาทิ ยาพาราเซตามอล เอ็กไคเนเซีย (Echinacea: สมุนไพร
ท้องถิ่นของสหรัฐฯ/แคนาดา) รวมถึงตำรับยาจีนและตำรับยาไทยบางกลุ่ม
ทั้งนี้ ศักยภาพการเติบโตของฟ้าทะลายโจรในไทย ประการสำคัญคงอยู่ที่การเพิ่มประสิทธิภาพ
การเพาะปลูกและการสร้างมูลค่าเพิ่มไปสู่การใช้เป็นสารตั้งต้นในกลุ่มยาและอาหารเสริม เพื่อให้สอดรับไปกับ
นโยบายภาครัฐที่ต้องการยกระดับการผลิตพืชสมุนไพร และต่อยอดการแปรรูปสมุนไพรไปสู่อุตสาหกรรมต่อเนื่อง
เป้าหมายตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) ซึ่งทุกฝ่ายคงต้องร่วมกันสนับสนุนอย่างจริงจัง
อนึ่งหากในอีก 3 ปีข้างหน้า ภายใต้เงื่อนไขผลผลิตฟ้าทะลายโจรระบบเปิดสามารถเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5 และมี
โรงงานผลิตพืชเพื่อใช้ในการผลิตฟ้าทะลายโจรเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 แห่ง ประเมินว่าจะสามารถทำให้ผลผลิต
ฟ้าทะลายโจรทั้งระบบเพิ่มขึ้นราว 17 - 22% จากผลผลิตในปัจจุบัน เป็น 220,800 - 230,200 กก./ปี
โดยผลผลิตที่ได้จากโรงงานผลิตพืชที่มีปริมาณสารสำคัญมากขึ้น น่าจะสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้นราว
1.5 - 2.0 เท่า
..........................................................
6 ฟ้าทะลายโจร ยกระดับการผลิตสมุนไพรไทย สู่อุตสาหกรรมยา. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/ThaiHerb-FB200420.aspx. (วันที่สืบค้นข้อมูล 27
กรกฎาคม 2564)
23