Page 414 - เอกสารประกอบหลักสูตรเพื่อพัฒนาอาชีพ Re - Skill และ Up - Skill กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม
P. 414
410
(ที่มาภาพประกอบ : โรงเรียนสอนอาหารครัววันดี)
ในปัจจุบัน "ขิง" ถูกนำมาสกัดเป็นเครื่องดื่มสำเร็จรูปสำหรับดื่มได้อย่างสะดวก บางคนก็อาจนำ
ขิงมาต้มเป็นเมนูน้ำขิงร้อน ๆ เพื่อสุขภาพ แต่หากใครไม่ชอบกลิ่นสมุนไพรฉุนๆ ก็สามารถนำไปผสมกับน้ำผึ้ง
เพิ่มรสชาติหอมหวานก็ได้เช่นกัน ซึ่งประโยชน์ของการดื่มน้ำขิงผสมน้ำผึ้งจะช่วยบำรุงลำไส้ และช่วยให้ระบบ
ขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณด้านอื่น ๆ ที่มีผลดีต่อร่างกายอีกมากมาย สรรพคุณของขิงมีดังนี้
1. ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืด
สารประกอบฟีโนลิกในขิงมีส่วนช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำไส้ พร้อมทั้งยังมีฤทธิ์
กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ขิงยังมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้
อย่างอ่อน ส่งผลให้อาการท้องอืด แน่นท้อง และอาการท้องเฟ้อบรรเทาลงได้
2. บรรเทาอาการคลื่นไส้
ฤทธิ์ร้อนของขิงเป็นยาแก้อาการคลื่นไส้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอาการคลื่นไส้ที่เกิดจาก
ความผิดปกติของกระเพาะอาหารและลำไส้ ที่ได้รับสารเคมีหรืออาหารแสลงบางอย่างมา นอกจากนี้ผลการศึกษาที่
ตีพิมพ์ในวารสาร Support Care Cancer เมื่อปี 2012 ยังบอกด้วยว่า การดื่มน้ำขิงเป็นประจำทุกวันจะสามารถ
ลดอาการคลื่นไส้ ในผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดได้
3. ช่วยลดน้ำหนัก
ผลการศึกษาของนักวิจัยชาวญี่ปุ่นที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Pharmaceutical Society of Japan
ในปี 2008 พบว่า ขิงมีส่วนช่วยเพิ่มการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญ
ไขมันได้มากกว่าปกติ จึงมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้น้ำขิงอุ่น ๆ ยังสามารถช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย
ลดอาการท้องผูก รวมทั้งลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นสาเหตุของความเครียด อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำ
ให้ร่างกายบริโภคไขมันมากขึ้นจนทำให้น้ำหนักขึ้นได้
4. ฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย
จากการทดลองน้ำที่ได้จากการแช่ขิงพบว่า น้ำขิงสามารถยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
และพยาธิชนิดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสารจิงเกอร์รอลในขิงยังมีอานุภาพมากพอจะลดโอกาสติดเชื้อต่าง ๆ ของ
410